อาลีซง แบเกร์
หน้านี้มีเนื้อหาเป็นภาษาต่างประเทศ คุณสามารถช่วยพัฒนาหน้านี้ได้ด้วยการแปล ยกเว้นหากเนื้อหาเกือบทั้งหมดไม่ใช่ภาษาไทย ให้แจ้งลบแทน |
ข้อมูลส่วนตัว | ||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | อาลีซง รังเซส แบเกร์[1] | |||||||||||||||||||
วันเกิด | [2] | 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992|||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | โนวูอัมบูร์กู ประเทศบราซิล | |||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 1.93 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว)[3] | |||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | ผู้รักษาประตู | |||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | ||||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | ลิเวอร์พูล | |||||||||||||||||||
หมายเลข | 1 | |||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | ||||||||||||||||||||
2002–2013 | อิงเตร์นาซีโยนัล | |||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | ||||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | |||||||||||||||||
2013–2016 | อิงเตร์นาซีโยนัล | 80 | (0) | |||||||||||||||||
2016–2018 | โรมา | 37 | (0) | |||||||||||||||||
2018– | ลิเวอร์พูล | 201 | (1) | |||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | ||||||||||||||||||||
2009 | บราซิล อายุไม่เกิน 17 ปี | 3 | (0) | |||||||||||||||||
2013 | บราซิล อายุไม่เกิน 21 ปี | 5 | (0) | |||||||||||||||||
2015– | บราซิล | 69 | (0) | |||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| ||||||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 18:10, 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 03:43, 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 (UTC) |
อาลีซง รังเซส แบเกร์ (โปรตุเกส: Alisson Ramsés Becker; เกิด 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลและทีมชาติบราซิล เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก[4] ด้วยสถิติการเก็บคลีนชีต การจ่ายบอล การแอสซิสต์ การเข้าสกัดบอล การพุ่งตัวเข้าหาบอล และยังเป็นผู้รักษาประตูคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลที่สามารถทำประตูได้
อาลีซงเริ่มอาชีพนักฟุตบอลที่สโมสรอิงเตร์นาซียอนัล เขาลงเล่นเกินกว่า 100 นัด และเป็นผู้ชนะเลิศกังเปโอนาตูกาอูชู (การแข่งขันระหว่างสโมสรในรัฐฮิวกรังจีดูซูว) ในทุกฤดูกาลที่เขาอยู่กับสโมสร ใน ค.ศ. 2016 เขาย้ายไปยังสโมสรโรมาด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร ในช่วงแรกเขาเป็นผู้เล่นสำรองให้กับวอยแชค ชแชนส์นือ เป็นส่วนใหญ่[5] และได้เป็นผู้รักษาประตูหลักหลังจากชแชนส์นือย้ายออกไป ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 อาลีซงเซ็นสัญญาเล่นให้กับสโมสรลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติโลกสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู[6]
อาลีซงเคยเป็นผู้เล่นทีมชาติบราซิลในระดับเยาวชนหลายระดับ ก่อนจะเปิดตัวในฐานะผู้เล่นทีมชาติชุดใหญ่เมื่อ ค.ศ. 2015 หลังจากนั้นก็ได้เป็นตัวแทนประเทศในการแข่งขันโกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ เมื่อ ค.ศ. 2016
สโมสรอาชีพ
โรมา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ฤดูกาล 2018-19
ในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ลิเวอร์พูลประกาศคว้าตัวอาลีซงจากโรมา ด้วยค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ ซึ่งกลายเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในตำแหน่งผู้รักษาประตูสวมเบอร์13[7] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 อาลีซงได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล นัดแรกเป็นทางการในนัดที่ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[8] ต่อมา อาลีซงก็ช่วยให้ลิเวอร์พูลไม่เสียประตูอีก 2 นัดกับคริสตัลพาเลซและไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ทำให้อาลีซงเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 4 ของลิเวอร์พูลที่สร้างสถิติเก็บคลีนชีตไว้ได้ ต่อมา ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2018 อาลีซงก็เสียประตูพรีเมียร์ลีกจากความผิดพลาดของเขาเอง ในนัดที่ลิเวอร์พูลชนะเลสเตอร์ซิตีที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 2-1[9] จบฤดูกาล อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 21 นัด ทำให้ อาลีซงคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง
ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[10]
ฤดูกาล 2019-20
อาลีซงจะสวมเสื้อหมายเลข 1 สำหรับฤดูกาล 2019-20 หลังจากใช้หมายเลข 13 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2019–20 อาลีซงลงเล่นแค่ 38 นาทีเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ โดยอาเดรียน ผู้รักษาประตูมือสองลงมาเฝ้าเสาแทนในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ นอริชซิตี 4-1[11] และอาลีซงจะต้องได้รับการสแกนเพื่อตรวจต่อไป[12]
ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2019 อาลีซงหายเจ็บกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 1-1[13] ต่อมา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 อาลีซงโดนใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นครั้งแรกในฟุตบอลอาชีพ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 2-1 ทำให้ อาลีซง โดนแบน 1 นัด[14] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[15] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2020 อาลีซงเปิดบอลให้ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0[16] จบฤดูกาล อาลีซงช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[17]
ฤดูกาล 2020-21
ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2020 อาลีซงเซฟลูกจุดโทษครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ 2-0[18]
ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 เขาสามารถทำประตูได้ในนัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 โดยเขาขึ้นมาทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ทำให้เขาเป็นผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลคนแรกที่สามารถทำประตูได้ และเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ทำประตูด้วยลูกโหม่ง[19]
ฤดูกาล 2021-22
ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2021 อาลีซงตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูลถึงปี 2027[20] วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 อาลีซงทำเข้าประตูตัวเองในนัดแรก ในนัดที่ลิเวอร์พูลแพ้เวสต์แฮม ที่ลอนดอนสเตเดียม 3-2
ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[21] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[22] จบฤดูกาล อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 20 นัด ทำให้ อาลีซงคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 ไปครอง[23]
ทีมชาติบราซิล
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 ทีมชาติบราซิลเรียกตัวอาลีซงติดรายชื่อชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยบราซิลได้อยู่กลุ่มอีร่วมกับสวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริกา และเซอร์เบีย อาลีซงได้ลงสนามเป็นตัวจริงในฐานะมือ 1 สุดท้าย บราซิลผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย คว้าอันดับ 1 ของกลุ่มอี ชนะ 2 เสมอ 1 ต่อมาในวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิลพ่ายแพ้เบลเยียม 1-2 ทำให้บราซิลต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลกที่รัสเซียเพียงเท่านี้
ชีวิตส่วนตัว
มูริเอล พี่ชายของอาลีซง ก็เป็นผู้เฝ้าประตูและพัฒนาตนเองที่อิงเตร์นาซีโยนัล[24] ครอบครัวฝั่งพ่อของอาลีซงมีเชื้อสายเยอรมัน โดยพ่อและย่าพูดภาษาเยอรมันได้คล่อง และตอนที่เล่นให้กับโรมา อาลีซงได้รับชื่อเล่นว่า "คนเยอรมัน"[25][26] เขายังถือหนังสือเดินทางเยอรมนี[27] นอกจากพูดภาษาโปรตุเกสที่เป็นภาษาแม่ได้แล้ว เขายังพูดภาษาอิตาลี[28] สเปน และอังกฤษได้ด้วย[29] ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2019 เขาได้รับเลือกเป็นทูตสันถวไมตรีโดยองค์การอนามัยโลก (WHO)[30]
ใน ค.ศ. 2015 อาลีซงแต่งงานกับ Natália Loewe หมอจากบราซิล ทั้งคู่มีลูกสาวชื่อ Helena (เกิดวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2017) และลูกชายชื่อ Matteo (เกิดวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2019)[31][32] ลูกชายคนที่สองเกิดในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2021[33] เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 José Agostinho พ่อของอาลีซง จมน้ำในทะเลสาบใกล้บ้านพักวันหยุดที่ Lavras do Sul เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเชื่อว่าไม่มีผู้ทำผิดกฎหมายในเหตุการณ์นี้[34]
อาลีซงเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์แบบเพนเทคอสต์แบบเคร่งครัด[35]
สถิติอาชีพ
สโมสร
- ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2024
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ลีกรัฐ[a] | ฟุตบอลถ้วย | ลีกคัพ | ทวีป | อื่นๆ[b] | รวม | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
อิงเตร์นาซีโยนัล | 2013[36] | แซรียีอา | 6 | 0 | 1 | 0 | 2[c] | 0 | — | — | — | 9 | 0 | |||
2014[36] | แซรียีอา | 11 | 0 | 3 | 0 | 0 | 0 | — | — | 14 | 0 | 28 | 0 | |||
2015[36] | แซรียีอา | 26 | 0 | 15 | 0 | 4[c] | 0 | — | 12[d] | 0 | — | 57 | 0 | |||
2016[36] | แซรียีอา | 1 | 0 | 17 | 0 | 0 | 0 | — | — | 3 | 0 | 21 | 0 | |||
รวม | 44 | 0 | 36 | 0 | 6 | 0 | — | 12 | 0 | 17 | 0 | 115 | 0 | |||
โรมา | 2016–17[36] | เซเรียอา | 0 | 0 | — | 4[e] | 0 | — | 11[f] | 0 | — | 15 | 0 | |||
2017–18[36] | เซเรียอา | 37 | 0 | — | 0 | 0 | — | 12[g] | 0 | — | 49 | 0 | ||||
รวม | 37 | 0 | — | 4 | 0 | — | 23 | 0 | — | 64 | 0 | |||||
ลิเวอร์พูล | 2018–19[37] | พรีเมียร์ลีก | 38 | 0 | — | 0 | 0 | 0 | 0 | 13[g] | 0 | — | 51 | 0 | ||
2019–20[38] | พรีเมียร์ลีก | 29 | 0 | — | 0 | 0 | 0 | 0 | 5[g] | 0 | 3[h] | 0 | 37 | 0 | ||
2020–21[39] | พรีเมียร์ลีก | 33 | 1 | — | 1 | 0 | 0 | 0 | 7[g] | 0 | 1[i] | 0 | 42 | 1 | ||
2021–22[40] | พรีเมียร์ลีก | 36 | 0 | — | 4 | 0 | 1 | 0 | 13[g] | 0 | — | 54 | 0 | |||
2022–23[41] | พรีเมียร์ลีก | 37 | 0 | — | 2 | 0 | 0 | 0 | 8[g] | 0 | 0 | 0 | 47 | 0 | ||
2023–24[42] | พรีเมียร์ลีก | 28 | 0 | — | 2 | 0 | 0 | 0 | 2[j] | 0 | — | 32 | 0 | |||
รวม | 201 | 1 | — | 9 | 0 | 1 | 0 | 48 | 0 | 4 | 0 | 263 | 1 | |||
รวมทั้งหมด | 282 | 1 | 37 | 0 | 19 | 0 | 1 | 0 | 83 | 0 | 7 | 0 | 428 | 1 |
- ↑ ลงเล่นใน Campeonato Gaúcho
- ↑ ลงเล่นในปรีไมราลีกา (บราซิล), Copa FGF และ Supercopa Gaúcha
- ↑ 3.0 3.1 ลงเล่นในCopa do Brasil
- ↑ ลงเล่นในโกปาลิเบร์ตาโดเรส
- ↑ ลงเล่นในโกปปาอีตาเลีย
- ↑ ลงเล่นครั้งเดียวในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และลงเล่น 10 ครั้งในยูฟ่ายูโรปาลีก
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ↑ ลงเล่นครั้งเดียวในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ ลงเล่น 2 ครั้งในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
- ↑ ลงเล่นในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์
- ↑ ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2024[43]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
บราซิล | 2015 | 3 | 0 |
2016 | 12 | 0 | |
2017 | 7 | 0 | |
2018 | 12 | 0 | |
2019 | 10 | 0 | |
2021 | 7 | 0 | |
2022 | 10 | 0 | |
2023 | 2 | 0 | |
2024 | 6 | 0 | |
รวม | 69 | 0 |
เกียรติประวัติ
สโมสร
อิงเตร์นาซียอนัล
- Campeonato Gaúcho: 2013, 2014, 2015, 2016[44]
ลิเวอร์พูล
- พรีเมียร์ลีก: 2019–20[3]
- เอฟเอคัพ: 2021–22[45]
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2018–19[46] runner up: 2021–22[47]
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2019[48]
- อีเอฟแอลคัพ: 2021–22[49]
ทีมชาติ
บราซิล อายุไม่เกิน 23 ปี
- Toulon Tournament: 2013[44]
บราซิล
รางวัลส่วนตัว
- The Best FIFA Goalkeeper: 2019
- FIFA FIFPro World XI: 2019, 2020
- UEFA Champions League Squad of the Season: 2017–18, 2018–19
- UEFA Champions League Goalkeeper of the Season: 2018–19
- Serie A Goalkeeper of the Year: 2017–18
- Serie A Team of the Year: 2017–18
- Premier League Golden Glove: 2018–19, 2021–22
- Premier League Save of the Month: August 2023
- Goal 50 World's Best Goalkeeper: 2018
- Globe Soccer Awards Goalkeeper of the Year: 2018, 2019
- Copa América Golden Glove: 2019
- Copa América Team of the Tournament: 2019
- IFFHS World's Best Goalkeeper: 2019
- IFFHS Men's World Team: 2019
- Yashin Trophy: 2019
- Ballon d'Or: 2019 (7th place)
- Samba Gold: 2019
- EA Sports FIFA Team of the Year: 2019
- UEFA Team of the Year: 2019
- Liverpool Goal of the Season: 2020–21 (vs. West Brom)
- Standard Chartered Liverpool Player of the Month: มีนาคม 2022
อ้างอิง
- ↑ "Squad List: FIFA World Cup Qatar 2022: Brazil (BRA)" (PDF). FIFA. 10 December 2022. p. 4. สืบค้นเมื่อ 11 December 2022.
- ↑ "FIFA Club World Cup Qatar 2019: List of Players: Liverpool FC" (PDF). FIFA. 5 December 2019. p. 7. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 5 December 2019. สืบค้นเมื่อ 17 January 2020.
- ↑ 3.0 3.1 "Alisson Becker: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 16 September 2023.
- ↑ Swan, Rob (15 April 2020). "Fans have ranked the 30 greatest goalkeepers in football history". GiveMeSport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 16 December 2023.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Porto-Roma, la formazione ufficiale: Alisson in porta, Dzeko in attacco" [Porto-Roma, the official formation: Alisson in goal, Dzeko in attack]. La Gazetta dello Sport (ภาษาอิตาลี). 17 August 2016. สืบค้นเมื่อ 8 December 2017.
- ↑ Romano, Fabrizio (2018-07-18). "Liverpool sign Roma goalkeeper Alisson for world-record £66.9m fee". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-07-19.
- ↑ ลิเวอร์พูลบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวอลิสสัน เบ็คเกอร์ มาร่วมทีม
- ↑ Match Report: หงส์แดงถล่มขุนค้อน 4-0 คว้าสามแต้มแรกของฤดูกาล 2018-19
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ 2-1
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลประเดิมเก็บ 3 แต้มแรกในเกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีก
- ↑ อัปเดตการบาดเจ็บของอลิสสัน เบ็คเกอร์
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
- ↑ Match Report: สองประตูของฟาน ไดจ์ค ช่วยให้ลิเวอร์พูลยังครองจ่าฝูง
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ ที่กาตาร์
- ↑ Match Report: ประตูจากฟาน ไดจ์ค และ ประตูท้ายเกมจากซาลาห์ ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- ↑ อัลบั้มภาพ: ทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
- ↑ Match Report: มาเน่เบิ้ลให้ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มเหนือเชลซี
- ↑ Match Report: อลิสสันโหม่งพังประตูในนาทีสุดท้ายคว้าชัยให้ลิเวอร์พูล
- ↑ อลิสสันเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับลิเวอร์พูล
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ
- ↑ Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟส์ในเกมสุดท้ายที่แอนฟิลด์
- ↑ อลิสสันคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีก
- ↑ "Goleiro 'mais gato do Brasil' quase largou a carreira porque era baixinho e fracote" ['Hottest' goalkeeper of Brazil almost dropped his career because he was tiny and wimpy] (ภาษาโปรตุเกส). ESPN Brasil. 16 May 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 October 2015. สืบค้นเมื่อ 17 October 2015.
- ↑ "How big a deal is new Liverpool goalkeeper Alisson Becker?". UEFA. 20 July 2018. สืบค้นเมื่อ 10 August 2019.
- ↑ Gehm, Florian (20 July 2018). "FC Liverpool: So viel Deutschland steckt in 73-Mio.-Keeper Alisson Becker". Die Welt.
- ↑ "Alisson, el coloso de Roma". sport. 2 April 2018.
- ↑ "Intervista ad Alisson Becker". Marco Terennato. 17 March 2017. สืบค้นเมื่อ 10 November 2020 – โดยทาง YouTube.
- ↑ "Alisson Full Pre-Match Press Conference – Bayern Munich v Liverpool – Champions League". BeanymanSports. 12 March 2019. สืบค้นเมื่อ 12 May 2019 – โดยทาง YouTube.
- ↑ "Alisson Becker appointed WHO goodwill ambassador". Liverpool F.C. สืบค้นเมื่อ 22 May 2019.
- ↑ McCoid, Sophie (19 July 2018). "Who is Alisson Becker's wife? Everything you need to know about Natalia Loewe". Liverpool Echo. สืบค้นเมื่อ 12 January 2019.
- ↑ Bona, Emilia (15 June 2019). "Alisson Becker and wife Natalia welcome baby son with gorgeous family photo". Liverpool Echo. สืบค้นเมื่อ 15 June 2019.
- ↑ O'Neill, Connor (10 May 2021). "Alisson Becker sent Liverpool message after announcing birth of new baby boy". Liverpool Echo. Reach plc. สืบค้นเมื่อ 16 May 2021.
- ↑ "Alisson: Liverpool goalkeeper's father dies after drowning in lake near holiday home in Brazil". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 25 February 2021.
- ↑ Hughes, Simon (15 January 2020). "Alisson, Roberto Firmino and religion's role at Liverpool and in the Premier League". The Athletic. สืบค้นเมื่อ 1 July 2021.
- ↑ 36.0 36.1 36.2 36.3 36.4 36.5 "Alisson Becker: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.
- ↑ "Games played by Alisson in 2018/2019". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
- ↑ "Games played by Alisson in 2019/2020". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
- ↑ "Games played by Alisson in 2020/2021". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
- ↑ "Games played by Alisson in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
- ↑ "Games played by Alisson in 2022/2023". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 16 September 2023.
- ↑ "Games played by Alisson in 2023/2024". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 5 May 2024.
- ↑ "Alisson: Internationals". worldfootball.net. HEIM:SPIEL. 29 January 2023. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.
- ↑ 44.0 44.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อRoma
- ↑ McNulty, Phil (14 May 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 May 2022.
- ↑ McNulty, Phil (1 June 2019). "Tottenham Hotspur 0–2 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 1 June 2019.
- ↑ McNulty, Phil (28 May 2022). "Liverpool 0–1 Real Madrid". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 16 September 2023.
- ↑ Poole, Harry (21 December 2019). "Liverpool 1–0 Flamengo". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 21 December 2019.
- ↑ McNulty, Phil (27 February 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
- ↑ "Brazil 3–1 Peru". BBC Sport. 7 July 2019. สืบค้นเมื่อ 7 July 2019.
แหล่งข้อมูลอื่น
- Profile at the Liverpool F.C. website
- อาลีซง แบเกร์ – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)
- อาลีซง แบเกร์ – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)
- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่ธันวาคม 2024
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2535
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- ชาวบราซิลเชื้อสายเยอรมัน
- ผู้รักษาประตูฟุตบอล
- นักฟุตบอลชาวบราซิล
- นักฟุตบอลทีมชาติบราซิล
- ผู้เล่นในกังเปโอนาตูบราซีเลย์รูแซรียีอา
- ผู้เล่นสมาคมกีฬาโรมา
- ผู้เล่นในเซเรียอา
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล
- ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2018
- ผู้เล่นในโกปาอาเมริกา 2019
- ผู้เล่นในโกปาอาเมริกา 2021
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2022
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศโกปาอาเมริกา
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ผู้รักษาประตูฟุตบอลที่ทำประตูได้
- บุคคลจากโนวูอัมบูร์กู