ข้ามไปเนื้อหา

อาลีซง แบเกร์

หน้าถูกกึ่งป้องกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อาลีซง แบเกร์
อาลีซงขณะเล่นให้กับบราซิลใน ค.ศ. 2018
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม อาลีซง รังเซส แบเกร์[1]
วันเกิด (1992-10-02) 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992 (32 ปี)[2]
สถานที่เกิด โนวูอัมบูร์กู ประเทศบราซิล
ส่วนสูง 1.93 เมตร (6 ฟุต 4 นิ้ว)[3]
ตำแหน่ง ผู้รักษาประตู
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ลิเวอร์พูล
หมายเลข 1
สโมสรเยาวชน
2002–2013 อิงเตร์นาซีโยนัล
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2013–2016 อิงเตร์นาซีโยนัล 80 (0)
2016–2018 โรมา 37 (0)
2018– ลิเวอร์พูล 201 (1)
ทีมชาติ
2009 บราซิล อายุไม่เกิน 17 ปี 3 (0)
2013 บราซิล อายุไม่เกิน 21 ปี 5 (0)
2015– บราซิล 69 (0)
เกียรติประวัติ
ฟุตบอลชาย
ตัวแทนของ ธงชาติบราซิล บราซิล
โกปาอาเมริกา
ชนะเลิศ บราซิล 2019
รองชนะเลิศ บราซิล 2021
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 18:10, 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 03:43, 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 (UTC)

อาลีซง รังเซส แบเกร์ (โปรตุเกส: Alisson Ramsés Becker; เกิด 2 ตุลาคม ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวบราซิล ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลและทีมชาติบราซิล เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก[4] ด้วยสถิติการเก็บคลีนชีต การจ่ายบอล การแอสซิสต์ การเข้าสกัดบอล การพุ่งตัวเข้าหาบอล และยังเป็นผู้รักษาประตูคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลที่สามารถทำประตูได้

อาลีซงเริ่มอาชีพนักฟุตบอลที่สโมสรอิงเตร์นาซียอนัล เขาลงเล่นเกินกว่า 100 นัด และเป็นผู้ชนะเลิศกังเปโอนาตูกาอูชู (การแข่งขันระหว่างสโมสรในรัฐฮิวกรังจีดูซูว) ในทุกฤดูกาลที่เขาอยู่กับสโมสร ใน ค.ศ. 2016 เขาย้ายไปยังสโมสรโรมาด้วยค่าตัว 7.5 ล้านยูโร ในช่วงแรกเขาเป็นผู้เล่นสำรองให้กับวอยแชค ชแชนส์นือ เป็นส่วนใหญ่[5] และได้เป็นผู้รักษาประตูหลักหลังจากชแชนส์นือย้ายออกไป ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 อาลีซงเซ็นสัญญาเล่นให้กับสโมสรลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติโลกสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู[6]

อาลีซงเคยเป็นผู้เล่นทีมชาติบราซิลในระดับเยาวชนหลายระดับ ก่อนจะเปิดตัวในฐานะผู้เล่นทีมชาติชุดใหญ่เมื่อ ค.ศ. 2015 หลังจากนั้นก็ได้เป็นตัวแทนประเทศในการแข่งขันโกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ เมื่อ ค.ศ. 2016

สโมสรอาชีพ

โรมา

ฤดูกาล 2018-19

ในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ลิเวอร์พูลประกาศคว้าตัวอาลีซงจากโรมา ด้วยค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ ซึ่งกลายเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในตำแหน่งผู้รักษาประตูสวมเบอร์13[7] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 อาลีซงได้ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล นัดแรกเป็นทางการในนัดที่ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[8] ต่อมา อาลีซงก็ช่วยให้ลิเวอร์พูลไม่เสียประตูอีก 2 นัดกับคริสตัลพาเลซและไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ทำให้อาลีซงเป็นผู้รักษาประตูคนที่ 4 ของลิเวอร์พูลที่สร้างสถิติเก็บคลีนชีตไว้ได้ ต่อมา ในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2018 อาลีซงก็เสียประตูพรีเมียร์ลีกจากความผิดพลาดของเขาเอง ในนัดที่ลิเวอร์พูลชนะเลสเตอร์ซิตีที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 2-1[9] จบฤดูกาล อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 21 นัด ทำให้ อาลีซงคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง

ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[10]

ฤดูกาล 2019-20

อาลีซงจะสวมเสื้อหมายเลข 1 สำหรับฤดูกาล 2019-20 หลังจากใช้หมายเลข 13 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2019–20 อาลีซงลงเล่นแค่ 38 นาทีเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ โดยอาเดรียน ผู้รักษาประตูมือสองลงมาเฝ้าเสาแทนในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ นอริชซิตี 4-1[11] และอาลีซงจะต้องได้รับการสแกนเพื่อตรวจต่อไป[12]

ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2019 อาลีซงหายเจ็บกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 1-1[13] ต่อมา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 อาลีซงโดนใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นครั้งแรกในฟุตบอลอาชีพ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 2-1 ทำให้ อาลีซง โดนแบน 1 นัด[14] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[15] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2020 อาลีซงเปิดบอลให้ มุฮัมมัด เศาะลาห์ ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0[16] จบฤดูกาล อาลีซงช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[17]

ฤดูกาล 2020-21

ในวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2020 อาลีซงเซฟลูกจุดโทษครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ 2-0[18]

ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 เขาสามารถทำประตูได้ในนัดที่ ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 โดยเขาขึ้นมาทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ทำให้เขาเป็นผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลคนแรกที่สามารถทำประตูได้ และเป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ทำประตูด้วยลูกโหม่ง[19]

ฤดูกาล 2021-22

ในวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2021 อาลีซงตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูลถึงปี 2027[20] วันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 อาลีซงทำเข้าประตูตัวเองในนัดแรก ในนัดที่ลิเวอร์พูลแพ้เวสต์แฮม ที่ลอนดอนสเตเดียม 3-2

ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[21] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[22] จบฤดูกาล อาลีซงเก็บคลีนชีตส์ในพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 20 นัด ทำให้ อาลีซงคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 ไปครอง[23]

ทีมชาติบราซิล

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2018 ทีมชาติบราซิลเรียกตัวอาลีซงติดรายชื่อชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยบราซิลได้อยู่กลุ่มอีร่วมกับสวิตเซอร์แลนด์, คอสตาริกา และเซอร์เบีย อาลีซงได้ลงสนามเป็นตัวจริงในฐานะมือ 1 สุดท้าย บราซิลผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย คว้าอันดับ 1 ของกลุ่มอี ชนะ 2 เสมอ 1 ต่อมาในวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 ฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย บราซิลพ่ายแพ้เบลเยียม 1-2 ทำให้บราซิลต้องจบเส้นทางฟุตบอลโลกที่รัสเซียเพียงเท่านี้

ชีวิตส่วนตัว

มูริเอล พี่ชายของอาลีซง ก็เป็นผู้เฝ้าประตูและพัฒนาตนเองที่อิงเตร์นาซีโยนัล[24] ครอบครัวฝั่งพ่อของอาลีซงมีเชื้อสายเยอรมัน โดยพ่อและย่าพูดภาษาเยอรมันได้คล่อง และตอนที่เล่นให้กับโรมา อาลีซงได้รับชื่อเล่นว่า "คนเยอรมัน"[25][26] เขายังถือหนังสือเดินทางเยอรมนี[27] นอกจากพูดภาษาโปรตุเกสที่เป็นภาษาแม่ได้แล้ว เขายังพูดภาษาอิตาลี[28] สเปน และอังกฤษได้ด้วย[29] ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2019 เขาได้รับเลือกเป็นทูตสันถวไมตรีโดยองค์การอนามัยโลก (WHO)[30]

ใน ค.ศ. 2015 อาลีซงแต่งงานกับ Natália Loewe หมอจากบราซิล ทั้งคู่มีลูกสาวชื่อ Helena (เกิดวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2017) และลูกชายชื่อ Matteo (เกิดวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2019)[31][32] ลูกชายคนที่สองเกิดในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2021[33] เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 José Agostinho พ่อของอาลีซง จมน้ำในทะเลสาบใกล้บ้านพักวันหยุดที่ Lavras do Sul เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเชื่อว่าไม่มีผู้ทำผิดกฎหมายในเหตุการณ์นี้[34]

อาลีซงเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์แบบเพนเทคอสต์แบบเคร่งครัด[35]

สถิติอาชีพ

สโมสร

ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2024
สโมสร ฤดูกาล ลีก ลีกรัฐ[a] ฟุตบอลถ้วย ลีกคัพ ทวีป อื่นๆ[b] รวม
ดิวิชัน ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
อิงเตร์นาซีโยนัล 2013[36] แซรียีอา 6 0 1 0 2[c] 0 9 0
2014[36] แซรียีอา 11 0 3 0 0 0 14 0 28 0
2015[36] แซรียีอา 26 0 15 0 4[c] 0 12[d] 0 57 0
2016[36] แซรียีอา 1 0 17 0 0 0 3 0 21 0
รวม 44 0 36 0 6 0 12 0 17 0 115 0
โรมา 2016–17[36] เซเรียอา 0 0 4[e] 0 11[f] 0 15 0
2017–18[36] เซเรียอา 37 0 0 0 12[g] 0 49 0
รวม 37 0 4 0 23 0 64 0
ลิเวอร์พูล 2018–19[37] พรีเมียร์ลีก 38 0 0 0 0 0 13[g] 0 51 0
2019–20[38] พรีเมียร์ลีก 29 0 0 0 0 0 5[g] 0 3[h] 0 37 0
2020–21[39] พรีเมียร์ลีก 33 1 1 0 0 0 7[g] 0 1[i] 0 42 1
2021–22[40] พรีเมียร์ลีก 36 0 4 0 1 0 13[g] 0 54 0
2022–23[41] พรีเมียร์ลีก 37 0 2 0 0 0 8[g] 0 0 0 47 0
2023–24[42] พรีเมียร์ลีก 28 0 2 0 0 0 2[j] 0 32 0
รวม 201 1 9 0 1 0 48 0 4 0 263 1
รวมทั้งหมด 282 1 37 0 19 0 1 0 83 0 7 0 428 1
  1. ลงเล่นใน Campeonato Gaúcho
  2. ลงเล่นในปรีไมราลีกา (บราซิล), Copa FGF และ Supercopa Gaúcha
  3. 3.0 3.1 ลงเล่นในCopa do Brasil
  4. ลงเล่นในโกปาลิเบร์ตาโดเรส
  5. ลงเล่นในโกปปาอีตาเลีย
  6. ลงเล่นครั้งเดียวในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และลงเล่น 10 ครั้งในยูฟ่ายูโรปาลีก
  7. 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
  8. ลงเล่นครั้งเดียวในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ ลงเล่น 2 ครั้งในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
  9. ลงเล่นในเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์
  10. ลงเล่นในยูฟ่ายูโรปาลีก

ทีมชาติ

ณ วันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2024[43]
ทีมชาติ ปี ลงเล่น ประตู
บราซิล 2015 3 0
2016 12 0
2017 7 0
2018 12 0
2019 10 0
2021 7 0
2022 10 0
2023 2 0
2024 6 0
รวม 69 0

เกียรติประวัติ

อาลีซงกับรางวัลถุงมือทองสำหรับโกปาอาเมริกา 2019

สโมสร

อิงเตร์นาซียอนัล

  • Campeonato Gaúcho: 2013, 2014, 2015, 2016[44]

ลิเวอร์พูล

ทีมชาติ

บราซิล อายุไม่เกิน 23 ปี

  • Toulon Tournament: 2013[44]

บราซิล

รางวัลส่วนตัว

  • The Best FIFA Goalkeeper: 2019
  • FIFA FIFPro World XI: 2019, 2020
  • UEFA Champions League Squad of the Season: 2017–18, 2018–19
  • UEFA Champions League Goalkeeper of the Season: 2018–19
  • Serie A Goalkeeper of the Year: 2017–18
  • Serie A Team of the Year: 2017–18
  • Premier League Golden Glove: 2018–19, 2021–22
  • Premier League Save of the Month: August 2023
  • Goal 50 World's Best Goalkeeper: 2018
  • Globe Soccer Awards Goalkeeper of the Year: 2018, 2019
  • Copa América Golden Glove: 2019
  • Copa América Team of the Tournament: 2019
  • IFFHS World's Best Goalkeeper: 2019
  • IFFHS Men's World Team: 2019
  • Yashin Trophy: 2019
  • Ballon d'Or: 2019 (7th place)
  • Samba Gold: 2019
  • EA Sports FIFA Team of the Year: 2019
  • UEFA Team of the Year: 2019
  • Liverpool Goal of the Season: 2020–21 (vs. West Brom)
  • Standard Chartered Liverpool Player of the Month: มีนาคม 2022

อ้างอิง

  1. "Squad List: FIFA World Cup Qatar 2022: Brazil (BRA)" (PDF). FIFA. 10 December 2022. p. 4. สืบค้นเมื่อ 11 December 2022.
  2. "FIFA Club World Cup Qatar 2019: List of Players: Liverpool FC" (PDF). FIFA. 5 December 2019. p. 7. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 5 December 2019. สืบค้นเมื่อ 17 January 2020.
  3. 3.0 3.1 "Alisson Becker: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 16 September 2023.
  4. Swan, Rob (15 April 2020). "Fans have ranked the 30 greatest goalkeepers in football history". GiveMeSport (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 16 December 2023.[ลิงก์เสีย]
  5. "Porto-Roma, la formazione ufficiale: Alisson in porta, Dzeko in attacco" [Porto-Roma, the official formation: Alisson in goal, Dzeko in attack]. La Gazetta dello Sport (ภาษาอิตาลี). 17 August 2016. สืบค้นเมื่อ 8 December 2017.
  6. Romano, Fabrizio (2018-07-18). "Liverpool sign Roma goalkeeper Alisson for world-record £66.9m fee". the Guardian (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2018-07-19.
  7. ลิเวอร์พูลบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวอลิสสัน เบ็คเกอร์ มาร่วมทีม
  8. Match Report: หงส์แดงถล่มขุนค้อน 4-0 คว้าสามแต้มแรกของฤดูกาล 2018-19
  9. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเฉือนเลสเตอร์ 2-1
  10. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกหลังชนะสเปอร์ส 2-0
  11. Match Report: ลิเวอร์พูลประเดิมเก็บ 3 แต้มแรกในเกมเปิดหัวพรีเมียร์ลีก
  12. อัปเดตการบาดเจ็บของอลิสสัน เบ็คเกอร์
  13. Match Report: ลิเวอร์พูลบุกไปเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
  14. Match Report: สองประตูของฟาน ไดจ์ค ช่วยให้ลิเวอร์พูลยังครองจ่าฝูง
  15. Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คลับ เวิลด์ ที่กาตาร์
  16. Match Report: ประตูจากฟาน ไดจ์ค และ ประตูท้ายเกมจากซาลาห์ ช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
  17. อัลบั้มภาพ: ทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก
  18. Match Report: มาเน่เบิ้ลให้ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มเหนือเชลซี
  19. Match Report: อลิสสันโหม่งพังประตูในนาทีสุดท้ายคว้าชัยให้ลิเวอร์พูล
  20. อลิสสันเซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับลิเวอร์พูล
  21. Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ
  22. Match Report: ลิเวอร์พูลชนะวูล์ฟส์ในเกมสุดท้ายที่แอนฟิลด์
  23. อลิสสันคว้ารางวัลถุงมือทองคำของพรีเมียร์ลีก
  24. "Goleiro 'mais gato do Brasil' quase largou a carreira porque era baixinho e fracote" ['Hottest' goalkeeper of Brazil almost dropped his career because he was tiny and wimpy] (ภาษาโปรตุเกส). ESPN Brasil. 16 May 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 October 2015. สืบค้นเมื่อ 17 October 2015.
  25. "How big a deal is new Liverpool goalkeeper Alisson Becker?". UEFA. 20 July 2018. สืบค้นเมื่อ 10 August 2019.
  26. Gehm, Florian (20 July 2018). "FC Liverpool: So viel Deutschland steckt in 73-Mio.-Keeper Alisson Becker". Die Welt.
  27. "Alisson, el coloso de Roma". sport. 2 April 2018.
  28. "Intervista ad Alisson Becker". Marco Terennato. 17 March 2017. สืบค้นเมื่อ 10 November 2020 – โดยทาง YouTube.
  29. "Alisson Full Pre-Match Press Conference – Bayern Munich v Liverpool – Champions League". BeanymanSports. 12 March 2019. สืบค้นเมื่อ 12 May 2019 – โดยทาง YouTube.
  30. "Alisson Becker appointed WHO goodwill ambassador". Liverpool F.C. สืบค้นเมื่อ 22 May 2019.
  31. McCoid, Sophie (19 July 2018). "Who is Alisson Becker's wife? Everything you need to know about Natalia Loewe". Liverpool Echo. สืบค้นเมื่อ 12 January 2019.
  32. Bona, Emilia (15 June 2019). "Alisson Becker and wife Natalia welcome baby son with gorgeous family photo". Liverpool Echo. สืบค้นเมื่อ 15 June 2019.
  33. O'Neill, Connor (10 May 2021). "Alisson Becker sent Liverpool message after announcing birth of new baby boy". Liverpool Echo. Reach plc. สืบค้นเมื่อ 16 May 2021.
  34. "Alisson: Liverpool goalkeeper's father dies after drowning in lake near holiday home in Brazil". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 25 February 2021.
  35. Hughes, Simon (15 January 2020). "Alisson, Roberto Firmino and religion's role at Liverpool and in the Premier League". The Athletic. สืบค้นเมื่อ 1 July 2021.
  36. 36.0 36.1 36.2 36.3 36.4 36.5 "Alisson Becker: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.
  37. "Games played by Alisson in 2018/2019". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
  38. "Games played by Alisson in 2019/2020". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
  39. "Games played by Alisson in 2020/2021". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
  40. "Games played by Alisson in 2021/2022". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 14 January 2023.
  41. "Games played by Alisson in 2022/2023". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 16 September 2023.
  42. "Games played by Alisson in 2023/2024". Soccerbase. Centurycomm. สืบค้นเมื่อ 5 May 2024.
  43. "Alisson: Internationals". worldfootball.net. HEIM:SPIEL. 29 January 2023. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.
  44. 44.0 44.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Roma
  45. McNulty, Phil (14 May 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 14 May 2022.
  46. McNulty, Phil (1 June 2019). "Tottenham Hotspur 0–2 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 1 June 2019.
  47. McNulty, Phil (28 May 2022). "Liverpool 0–1 Real Madrid". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 16 September 2023.
  48. Poole, Harry (21 December 2019). "Liverpool 1–0 Flamengo". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 21 December 2019.
  49. McNulty, Phil (27 February 2022). "Chelsea 0–0 Liverpool". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 February 2022.
  50. "Brazil 3–1 Peru". BBC Sport. 7 July 2019. สืบค้นเมื่อ 7 July 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น